ฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้าน เลือกแบบไหนให้เหมาะ

บ้านคือวิมานของเรา เป็นที่ที่ให้ความสุข ความอบอุ่น และความผ่อนคลายหลังจากเผชิญกับเรื่องราวต่างๆ มาตลอดทั้งวัน แต่รู้หรือไม่ว่า แม้แต่ในบ้านของเราเองก็ยังมีภัยร้ายที่แฝงมากับแสงแดด นั่นก็คือ รังสี UV และความร้อนสะสม ซึ่งเป็นตัวการทำร้ายสุขภาพผิว ทำลายเฟอร์นิเจอร์ และทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุดคือการติดตั้ง “ฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้าน” แต่ด้วยฟิล์มที่มีให้เลือกมากมาย หลายคนอาจสงสัยว่า “แบบไหนถึงจะเหมาะกับบ้านของเรา?” บทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยและเป็นแนวทางในการเลือกฟิล์มกรองแสงที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด

ทำความรู้จักฟิล์มกรองแสงแต่ละประเภท

ฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้านมีให้เลือกหลักๆ สองประเภท ได้แก่

  • ฟิล์มใส: มองเห็นทะลุผ่านได้ทั้งสองฝั่ง มีคุณสมบัติกันรังสี UV ได้สูง ช่วยป้องกันความร้อนสะสมและลดแสงจ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้บ้านสว่าง ไม่ดูทึบจนเกินไป
  • ฟิล์มทึบ: มองเห็นทะลุผ่านได้ทางเดียว มีคุณสมบัติกันรังสี UV และป้องกันความร้อนได้ดีเยี่ยม ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการลดแสงแดดจัดและป้องกันสายตาจากภายนอก

ปัจจัยสำคัญในการเลือกฟิล์มกรองแสง

  • ทิศทางของบ้าน: บ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกและทิศใต้ มักได้รับแสงแดดจัดกว่าทิศอื่นๆ ควรเลือกฟิล์มที่มีประสิทธิภาพในการกันความร้อนสูง หรือพิจารณาใช้ฟิล์มแบบทึบ
  • การใช้งานของห้อง: ห้องนอนควรเลือกฟิล์มที่ช่วยลดแสงและป้องกันความร้อนได้ดี เพื่อการนอนหลับที่สบาย ส่วนห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงาน อาจเลือกใช้ฟิล์มใสที่ช่วยลดแสงจ้า แต่ยังคงความสว่าง
  • สไตล์การตกแต่ง: ฟิล์มกรองแสงมีให้เลือกหลากหลายเฉดสี สามารถเลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านได้อย่างลงตัว
  • งบประมาณ: ฟิล์มกรองแสงมีราคาแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติและยี่ห้อ ควรกำหนดงบประมาณในใจ และเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่งก่อนตัดสินใจซื้อ
  • การรับประกัน: ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพ มักมีการรับประกันคุณภาพตั้งแต่ 3-5 ปี ควรเลือกซื้อจากร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ

ข้อดีของการติดฟิล์มกรองแสง

ลดความร้อน: ช่วยลดปริมาณความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นสบายขึ้น
ประหยัดพลังงาน: เมื่อบ้านไม่ร้อนอบอ้าว ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศบ่อยๆ ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
ป้องกันรังสี UV: รังสี UV เป็นอันตรายต่อผิวหนัง เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง และยังทำให้เฟอร์นิเจอร์ซีดจาง เสื่อมสภาพเร็ว ฟิล์มกรองแสงช่วยป้องกันอันตรายจากรังสี UV ได้ถึง 99%
เพิ่มความเป็นส่วนตัว: ฟิล์มแบบทึบ ฟิล์มติดกระจกบ้านข้างนอกมองไม่เห็น ช่วยป้องกันการมองเห็นจากภายนอก ทำให้รู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น
เพิ่มความสวยงาม: ฟิล์มกรองแสงมีให้เลือกหลายเฉดสี ช่วยเสริมให้บ้านดูสวยงาม โดดเด่น มีสไตล์มากยิ่งขึ้น

การติดตั้งฟิล์มกรองแสงควรเลือกใช้บริการจากช่างผู้ชำนาญ เพื่อให้การติดตั้งมีประสิทธิภาพ และฟิล์มเรียบเนียน สวยงาม ไร้ฟองอากาศ

ฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้านถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่ ปลอดภัย และประหยัดพลังงานมากขึ้น หากคุณกำลังมองหาวิธีทำให้บ้านเย็นสบายอย่างยั่งยืน ฟิล์มกรองแสงคือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ by ขจรเจริญกลการ

Posted in บทความ.